วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556



สรุปงานวิจัย

เรื่อง การศึกษาความสามารถทางพหุปัญญาของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (A study of multiple intelligences abilities of young children enhancing science activities)

ของ พิมพ์พรรณ ทองประสิทธ์


      พหุปัญญา หมายถึง  สติปัญญาความสามารถที่หลากหลายของบุคคลที่มีความสามารถที่มาจากการถูกควบคุมโดยสมองแต่ละส่วนและการพัฒนาสมองต้องได้รับการเลี้ยงดูจากสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม การส่งเสริมความสามารถทางสติปัญญาในการทำกิจกรรมต่างๆอย่างมีเป้าหมายคิดอย่างมีเหตุผล และต้องจัดให้เหมาะสมกับความแตกต่างระหว่างบุคคลเพื่อให้พัฒนาความสามารถทางสติปัญญาของบุคคลในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม และสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับพหุปัญญา  ได้มีผู้ที่ศึกษาถึงสติปัญญาเอาไว้
        ทฤษฏีการพัฒนาสติปัญญา ดังนี้




ทฤษฏีพหุปัญญา

            การ์ดเนอร์ ได้คิดทฤษฏีพหุปัญญาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพหุปัญญา เกิดจากศึกษาเรื่องสมองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสติปัญญาและความสามารถที่หลากหลายของบุคคล และมีความเชื่อว่าสติปัญญาแต่ล่ะด้านจะอยู่ที่ต่างๆของสมอง ซึ่งบุคคลคนหนึ่งอาจมีความสามารถทางสติปัญญาได้หลายด้าน คนเราไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะการเรียนอย่างเดียวแต่สติปัญญายังมีอีกหลายด้านและแต่ละคนมีสติปัญญาแต่ละด้านไม่เท่ากัน แต่สามารถพัฒนาสติปัญญาในแต่ละด้านได้มากน้อยต่างกันในแต่ละบุคคล ซึ่งการ์ดเนอร์ เชื่อว่าแม้ว่าคนแต่ละคนจะมีสติปัญญาแต่ละด้านไม่เท่ากันแต่ก็สามารถพัฒนาสติปัญญาทั้ง 8 ด้านได้ คือ ด้านภาษา ด้านตรรกะ/คณิตศาสตร์ ด้านมิติสัมพันธ์ ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว
 ด้านดนตรี ด้านความเข้าใจผู้อื่น ด้านความเข้าใจตนเอง ด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โครงสร้างของสมองแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ดังนี้ 1 สมองใหญ่  2 สมองเล็ก 3 ก้านสมอง

            สมองกับสติปัญญาและการเรียนรู้นั้นสมองของเด็กมีการปรับเปลี่ยนได้ทั้งในด้านโครงสร้างและหน้าที่ การเรียนรู้ที่ได้จากสภาพแวดล้อมสามารถเปลี่ยนแปลงการทำงานของสมองได้อย่างมากในการพัฒนาสติปัญญาขึ้นอยู่กับสมอง  เด็กที่ได้รับการกระตุ้นจากสภาพสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม ทำให้สมองของเด็กเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและความสามารถในการเรียนรู้ของสมองเด็ก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยแต่ละปัจจัยแต่ละปัจจัยมีบทบาทที่สำคัญและจะเสริมซึ่งกันและกัน ดังนั้นในการช่วยใหเด็กเรียนดีจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงปัจจัยทุกด้านและทำการแก้ไขปัจจัยดังกล่าวให้ดีขึ้น เด็กที่มีทางเดินเส้นประสาทที่ใช้ในการคิดและเส้นประสาทที่เชื่อมโยงระหว่างเชลล์สมองจำนวนมากจะสามารถเรียนรู้ได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าเด็กทั่วไป ฉะนั้นการส่งเสริมการพัฒนาสมองให้เกิดความสมดุลจะส่งผลในการพัฒนาพหุปัญญาในเด้กปฐมวัย






คู่มือการจัดกิจกรรมโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

หลักการและเหตุผล

     การจัดกิจกรรมโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นการจัดกิจกรรมที่มีลักษณะที่สำคัญที่มุ่งสอนให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางมีแนวทางในการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งในงานวิจัยนี้ได้นำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเป้นทักษะขั้นสูงมาเป็นแนวในการจัดกิจกรรม เพื่อพัฒนาความสามารถทางพหุปัญญาในระดับปฐมวัย ตามแนวของโฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ จำนวน 8 ด้านคือ 1.ความสามารถทางสติปัญญาด้านภาษา 2.ความสามารถทางสติปัญญาด้านตรรกะ/คณิตศาสตร์ 3.ความสามารถทางสติปัญญาด้านมิติสัมพันธ์ 4.ความสามารถทางสติปัญญาด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว  5.ความสามารถทางสติปัญญาด้านดนตรี 6.ความสามารถทางสติปัญญาด้านความเข้าใจผู้อื่น 7.ความสามารถทางสติปัญญาด้านความเข้าใจตนเอง 8.ความสามารถทางสติปัญญาด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผ่านการบูรณาการการเรียนรู้เชื่อมโยงกับความสนใจของเด็กและบูรณาการสาระการเรียนรู้ในเรื่องต่างๆเข้าด้วยกัน เน้นการทำงานกลุ่มการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติที่เป็นระบบโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาแก้ปัญหาที่ต้องการค้นหาคำตอบที่สงสัย ตลอกจนลงมือปฏิบัติกิจกรรม จากการปฏิบัติกิจกรรมนักเรียนได้รับการพัฒนาความสามารถพหุปัญญาทั้ง 8 ด้าน 

ขั้นตอนการจัดกิจกรรมโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

     มีขั้นตอนในการปฏิบัติกิจกรรม 5 ขั้น ดังนี้

  1. ขั้นการสำรวจปัญหา เป็นการค้นหาความสนใจของผู้เรียนที่ต้องการค้นหาคำตอบที่สงสัยโดยครูเป็นผู้กระตุ้นความสนใจในหัวเรื่องที่จะเรียนรู้
  2. ขั้นการตั้งสมมุติฐาน  ผู้เรียนจะคาดคะเน วางแผนในการค้นหาคำตอบที่สามารถหาได้จากวัสดุ อุปกรณ์ 
  3. ขั้นการศึกษาค้นคว้า การเรียนรู้ที่ได้วางแผนไว้ โดยการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการที่หลากหลาย เป็นการศึกษาค้นคว้า สำรวจ สังเกต การทดลอง การปฏิบัติจริง เน้นการทำงานเป็นกลุ่ม การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
  4. ขั้นการสรุปผล เด็กได้สรุปผลจากที่ได้สร้างองค์ความรู้จากการแก้ปัญหาตามที่ได้วางแผนไว้
  5. ขั้นการนำเสนอ เป็นกานนำเสนอสรุปผลที่ศึกษาค้นคว้าหาคำตอบที่ได้ในรูปการเขียนรายงานแบบวาดภาพ และนำเสนอความรู้ที่ได้จัดในรูปการอธิบายการเล่าเรื่องหรือการสาธิต

แผนการจัดกิจกรรมโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์


ตัวอย่างการจัดกิจกรรม

เรื่อง     น้ำ

กิจกรรม

           มีจำนวน 3 กิจกรรม ดังนี้
               1. ไอศกรีม (พัฒนาพหุปัญญาด้านความเข้าใจผู้อื่น)
               2. การกรอกน้ำ (พัฒนาพหุปัญญาด้านร่งกายและการเคลื่อนไหว)
               3. ดนตรีขวดน้ำ (พัฒนาพหุปัญญาดนตรีและความเข้าใจตนเอง)

แนวคิด

          น้ำเป็นธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีคุณค่าต่อสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะมนุษย์ น้ำมีลักษณะเป็นของเหลวเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้ตามรูปทรงของภาชนะ มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถเปลี่ยนแปลงจากของเหลวกลายเป็นของแข็งและของแข็งกลายเป็นของเหลวได้ และน้ำในปริมาณที่แตกต่างกันอยู่ในภาชนะที่เป็นแก้วเมื่อเคาะจะมีระดับเสียงที่ต่างกัน

สาระการเรียนรู้
               1. การเปลี่ยนแปลงของน้ำ จากของเหลวกลายเป็นของแข็ง
               2. การเปรียบเทียบน้ำที่เป็นของเหลวกับของแข็ง
               3. การเปลี่ยนแปลงรูปร่างและขนาดของน้ำ
               4. การสังเกตลักษณะของน้ำกับภาชนะรูปทรงต่างๆ
               5. น้ำเทออกและบรรจุในภาชนะต่างๆได้
               6. น้ำในปริมาณที่แตกต่างมีระดับเสียงที่แตกต่างกัน

จุดประสงค์ที่พึงพัฒนาพหุปัญญา ทั้ง 4 ด้าน
          
     1. ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว
          - ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายในการปฏิบัติกิจกรรมในการกรอกน้ำได้
          - ใช้ร่างกายแสดงท่าทาง อธิบายความรู้ในการกรอกน้ำได้
          - ทำกิจกรรมต่างๆอย่างประสานสัมพันธ์ ระหว่างกล้ามเนื้อมือกับประสาทตาในการกรอกน้ำได้
     2. ด้านดนตรี
          - ร้องเพลงประกอบจังหวะได้
          - มีปฏิกิริยาตอบโต้ต่อทำนองเพลงและจังหวะได้
          - แสดงท่าทางประกอบจังหวะและสัญญาณได้
      3. ด้านความเข้าใจผู้อื่น
          - วางแผนปฏิบัติกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นในการปฏิบัติกิจกรรมไอศกรีมได้
          - ปฏิบัติกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นโดยการแสดงความช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่มในการปฏิบัติกิจกรรมไอศกรีมได้
          - แสดงความเอื้อเฟื้อและแบ่งปันสิ่งของต่อผู้อื่นในการปฏิบัติกิจกรรมไอศกรีมได้
     4. ด้านความเข้าใจตนเอง
          - ตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมและมีความสนใจต่อสิ่งที่ทำในการปฏิบัติกิจกรรมดนตรีขวดน้ำได้
          - กล้าแสดงออกอย่างมั่นใจในการนำเสนอผลงานในการปฏิบัติกิจกรรมดนตรีขวดน้ำได้
          - แสดงการทำงานโดยการปฏิบัติกิจกรรม อย่างมีการวางแผนในการปฏิบัติกิจกรรมดนตรีขวดน้ำได้

แนวการประเมินผล

     1. ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว
          - สังเกตการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายในการปฏิบัติกิจกรรมในการกรอกน้ำได้
          - สังเกตการใช้ร่างกายแสดงท่าทาง อธิบายความรู้ในการกรอกน้ำได้
          - สังเกตการทำกิจกรรมต่างๆอย่างประสานสัมพันธ์ ระหว่างกล้ามเนื้อมือกับประสาทตาในการกรอกน้ำได้
     2. ด้านดนตรี
          - สังเกตการร้องเพลงประกอบจังหวะได้
          - สังเกตการมีปฏิกิริยาตอบโต้ต่อทำนองเพลงและจังหวะได้
          - สังเกตการ แสดงท่าทางประกอบจังหวะและสัญญาณได้
      3. ด้านความเข้าใจผู้อื่น
          - สังเกตการวางแผนปฏิบัติกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นในการปฏิบัติกิจกรรมไอศกรีมได้
          - สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นโดยการแสดงความช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่มในการปฏิบัติกิจกรรมไอศกรีมได้
          - สังเกตการแสดงความเอื้อเฟื้อและแบ่งปันสิ่งของต่อผู้อื่นในการปฏิบัติกิจกรรมไอศกรีมได้
     4. ด้านความเข้าใจตนเอง
          - สังเกตการตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมและมีความสนใจต่อสิ่งที่ทำในการปฏิบัติกิจกรรมดนตรีขวดน้ำได้
          - สังเกตการกล้าแสดงออกอย่างมั่นใจในการนำเสนอผลงานในการปฏิบัติกิจกรรมดนตรีขวดน้ำได้
          - สังเกตการแสดงการทำงานโดยการปฏิบัติกิจกรรม อย่างมีการวางแผนในการปฏิบัติกิจกรรมดนตรีขวดน้ำได้
       


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น